มุมข่าวร้อนประเด็นดัง HOT !!

วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Vitamin C 1000 วิตามินซี ที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน ทาน 1000 MG มีผลอย่างไรบ้าง

Vitamin C จากหลายแหล่งข้อมูลสรุปได้ดังนี้ ค่ะ 
ปกติร่างกายควรได้รับปริมาณวิตามินซี สำหรับผู้หญิงที่มีอายุ ตั้งแต่ 15 ปี ขึ้นไป แนะนำให้รับประทานคือ 60 มิลลิกรัมต่อวัน (แต่ในคนที่สูบบุหรี่ 200 มิลลิกรัมต่อวัน)  เนื่องจากวิตามิน ซี เป็นวิตามินที่ละลายน้ำและถูกขับออกทางปัสสาวะได้ ดังนั้นจึงควรบริโภคอย่างสม่ำเสมอทุกวัน อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารเสริมสุขภาพได้แนะนำว่าเพื่อประสิทธิภาพ ที่ดีต่อสุขภาพควรจะต้องรับประทานอย่างน้อย 100-200 มิลลิกรัมต่อวัน คนที่มีความเครียดควรรับประทานวันละ 500 มิลลิกรัมต่อวัน แต่หากต้องการผลในด้านการป้งกันโรคต่างๆ เช่น มะเร็ง ความชรา ควรจะรับประทาน 250 – 1,000 มิลลิกรัม


หากเราได้รับ วิตามินซี น้อยกว่าที่ร่างกายควรจะได้รับ ก็จะเกิดลักปิดลักเปิด

จากแหล้งอ้างอิง pantip  "
แง่ความงาม  *** ช่วยเรื่องผิวพรรณ  ยี่งทานคู่กับ คอลลาเจน   Q10  ไฮยาลูรอน  กลูตาไทโอน  วิตามิน B  วิตามินซี จะเป็นตัวช่วยในการดูดซึมวิตามินเสริมเหล่านั้นได้ดี
แง่สุขภาพ  *** จากผลการวิจัย(ที่ไหนเราก็จำไม่ได้)  เค้าบอกว่า  วิตซีมีสารต้านอนุมูลอิสระพูดง่ายๆ  ทำให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายไม่เสื่อมเร็ว  และถ้าได้รับในปริมาณที่เพียงพอจะทำให้มีภูมิต้านทาน ไม่เป็นหวัดง่าย
แต่ทุกอย่างก็ต้องรับประทานอย่างเหมาะสมค่ะ  คนที่ทานผักผลไม้เพียงพออยู่แล้ว  วิตตามินซีเสริมก็ไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อมาทาน  เพราะถึงทานไปร่างกายก็จะขับส่วนที่เกินออกมากับปัสสาวะค่ะ  เรียกว่าเสียเงินฟรีไปค่ะ  "


ประโยชน์ของวิตามิน ซี เมื่อรับในปริมาณดังกล่าว เป็นปริมาณที่ร่างกายต้องการเพื่อ
1. ช่วยป้องกันโรคเหงือกและฟัน คือ โรคเลือดออกตามไรฟัน (Scurvy)
2. ช่วยให้เนื้อเยื่อของร่างกาย (Connect Tussue) ทำงานปกติ
3. ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็กซึ่งเป็นการสร้างเม็ดเลือดทางอ้อม
4. ช่วยในการหายของแผล (Wound Healing)
5. ช่วยในด้านระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (Immune System)  เป็นหวัดหายไวค่ะ 
6. สร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจน ตัวนี้สร้างความยืดหยุ่นให้ผิวพรรณ
7. ช่วยให้แผลสดและแผลไฟไหม้หายเร็วขึ้น



วิตามิน ซี ยังมีบทบาทในด้านเป็นตัวช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ (Ante-Oxidant) โดยที่มีการศึกษาอย่างต่อเนื่องกว้างขวาง อาจจะจำเป็นต้องได้รับในปริมาณที่สูง (1,000-2,000 มิลลิกรัม / วัน) จึงอาจจะหวังผลให้วิตามิน ซี ออกฤทธิ์เป็นตัวกำจัดอนุมูลอิสระได้


แหล่งวิตามินในธรรมชาติ 
- อะเซโรลาเชอรี่- ฝรั่ง - สับปะรด
- ตระกูลกะหล่ำ กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี 
- บรอกโคลี
- น้ำมะนาว 
- มันฝรั่ง 
- กล้วยชนิดต่างๆ 
- พริกหวาน 
- ผักโขม
- สตรอว์เบอร์รี่
- มะเขือเทศ
มะละกอ 
ข้อปฏิบัติในการรับประทานวิตามินซี เพื่อประโยชน์สูงสุด

- เพื่อให้ได้ผลดีที่สุดควรพิจารณารับประทานร่วมกับสารต้านอนุมูลอิสระตัว อื่นๆ เช่น วิตามินอี จะไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ วิตามินซี
- เพื่อสุขภาพทั่วไป ควรรับประทานอย่างน้อย 500 มิลลิกรัมต่อวัน
- สำหรับการรับประทานเพื่อการรักษาหรือการป้องกัน ควรรับประทาน 1,000 – 6,000 มิลลิกรัม ขึ้นกับโรคแต่ละชนิด
- การรับประทานไม่จำเป็นต้องรับประทานในครั้งเดียวต่อวัน สามารถแบ่งรับประทานเป็นหลายๆ ครั้งต่อวัน
- วิตามินซี จากธรรมชาติ จะให้ผลดีกว่าวิตามินซี สังเคราะห์ 

ข้อควรระวังสำหรับการทานวิตามีนซีในปริมาณมากๆ 
การบริโภควิตามิน ซี ในปริมาณที่สูงกว่าที่กำหนดไว้ (60 มิลลิกรัม / วัน) ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ อาจจะเกิดผลข้างเคียงที่อาจจะพบได้ (แต่ก็พบได้ยากมาก เนื่องจากวิตามิน ซี ละลายน้ำได้ดีและถูกขับออกทางปัสสาวะได้ง่าย) ได้แก่
โรคเกาต์ เนื่องจากวิตามินซีมีหน้าที่ในการช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กในร่างกาย การรับวิตามินซีในปริมาณมากจะทำให้เกิดปัญหาการสะสมธาตุเหล็กตามกระดูกข้อ ต่อต่างๆ มากขึ้น

- นิ่วในไต การได้รับวิตามินซีมากเกินไปอาจไปรบกวนการดูดซึมของทองแดงและซีลีเนียม ซึ่งส่งผลให้มีอัตราเสี่ยงต่อการเกิดนิวในไต
- โลหิตจาง เนื่องจากไปขัดขวางการดูดซึมของวิตามิน บี12
- ท้องเสีย หากได้รับวิตามินซีเกินวันละ 10,000 มิลลิกรัม อาจทำให้ท้องเสีย ท้องอืด ท้องเฟ้อได้

หากบริโภควิตามิน ซี ในปริมาณสูงกว่าที่กำหนด ควรทานหลังหรือพร้อมอาหารและดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ร่างกายสามารถขับออกมาได้เองทางปัจสาวะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น